ถ่ายทอดสดฮอลล์ทัวร์คอนเสิร์ตรอบปิดท้ายครั้งแรกในญี่ปุ่นของ NiziU ณ Nippon Budokan สู่โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ

ประกาศการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ต NiziU Live with U 2025 “NEW EMOTION : Face To Face” LIVE VIEWING ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าคอนเสิร์ต “NiziU Live with U 2025 NEW EMOTION : Face To Face” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ที่ Nippon Budokan (โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) จะถูกถ่ายทอดสดผ่านระบบ Live Viewing ให้แฟนๆได้รับชมพร้อมกันทั้งในประเทศญี่ปุ่น และที่โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ เกิร์ลกรุ๊ป 9 สาว “NiziU” ภายใต้สังกัด JYP Entertainment กำลังจัดฮอลล์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NiziU โดยเดินสายไปทั่วญี่ปุ่น ครอบคลุม 21 เมือง 23…

Read More

แบรนด์กระเป๋าถือ Marina Lorenzi, Frédéric Lesellier, Gamberini Bag และ Dadaputìa พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

วางจำหน่ายเฉพาะที่ Vetrinamia.com แพลตฟอร์มสินค้าหรูจากยุโรปที่คัดสรรโดยเฉพาะ 1 ตุลาคม 2568 – กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ผู้บริโภคสินค้าหรูในประเทศไทยสามารถสัมผัสและเลือกสรรกระเป๋าถือแบรนด์อิสระจากยุโรปได้แล้ววันนี้ ได้แก่ Marina Lorenzi, Frédéric Lesellier, Gamberini Bag และ Dadaputìa ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอิตาลีและฝรั่งเศส โดยแบรนด์เหล่านี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในอินโดนีเซีย และวางจำหน่ายเฉพาะที่ Vetrinamia.com แพลตฟอร์มที่คัดสรรเฉพาะงานฝีมือชั้นเลิศจากยุโรป เว็บไซต์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีนักช้อปเข้าชมมากกว่า 12,000 คนต่อวันจากประเทศไทยเพียงประเทศเดียว และมากกว่า 120,000 คนต่อวัน จากสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ <img style="width: 100%;" src="https://imagedelivery.net/H6_s_Eb_ylTWnSEV3HlmYQ/19c6dafe-45cf-4f7a-0dc3-b6f55b54b200/public" alt="กระเป๋า Beaumont สีฟ้าอ่อน จากแบรนด์ฝรั่งเศส Frederic Lesellier” /> การเฉลิมฉลองมรดกแห่งงานฝีมือและการออกแบบร่วมสมัย กระเป๋าแต่ละใบถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือชาวอิตาลี ด้วยหนังลูกวัวอิตาลีที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน…

Read More

การเปรียบเทียบตลาดหุ้นของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

ตลาดหุ้นของประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะที่เป็นเศรษฐกิจอันดับสองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ตลาดการเงินของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเติบโตตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นของไทยจะเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อย่างไร? การเข้าใจตลาดเหล่านี้ในเชิงเปรียบเทียบสามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์เช่นกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นศูนย์กลางของตลาดทุนในประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 2518 และเติบโตอย่างมาก มีบริษัทจดทะเบียนหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน โทรคมนาคม การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค ดัชนี SET ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้แสดงถึงการเติบโตที่ค่อนข้างมั่นคง สะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าจะมีช่วงเวลาของความผันผวนทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นของไทยมีการกำกับดูแลที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยมีการเน้นที่การกำกับดูแลกิจการของบริษัทและการคุ้มครองนักลงทุน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้ดูแลกิจกรรมของ SET เพื่อให้มั่นใจในความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ของตลาด หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ SET คือมีสภาพคล่องที่สูง ซึ่งขับเคลื่อนโดยทั้งนักลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศ การเปรียบเทียบกับ Bursa Malaysia ของมาเลเซีย เมื่อพูดถึงขนาดและอิทธิพลในภูมิภาค ตลาดหุ้นของไทยมักจะเปรียบเทียบกับ Bursa Malaysia ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศมาเลเซีย Bursa Malaysia เป็นตลาดที่มีความหลากหลายมากกว่า โดยมีบริษัทจดทะเบียนในหลายอุตสาหกรรม…

Read More

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของธนาคารเอกชนและธนาคารของรัฐในประเทศไทย

ภาคธนาคารในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยสนับสนุนธุรกิจและประชาชนในการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน การเข้าใจผลการดำเนินงานของธนาคารเอกชนและธนาคารของรัฐในประเทศไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินการมีส่วนร่วมของธนาคารในความมั่นคงและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบทั้งสองภาคธนาคารจะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละภาค ธนาคารเอกชนในประเทศไทย ธนาคารเอกชนในประเทศไทย เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมการเงินของประเทศ ธนาคารเหล่านี้มักได้รับการยอมรับในด้านความยืดหยุ่น นวัตกรรม และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ธนาคารเอกชนให้บริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการธนาคารเพื่อบุคคลจนถึงบริการการเงินสำหรับองค์กร และมีเครือข่ายสาขาและบริการธนาคารดิจิทัลที่กว้างขวาง ลักษณะเด่นของธนาคารเอกชนคือความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการให้บริการ ธนาคารเหล่านี้มักเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมทางการธนาคาร โดยนำเสนอแอปพลิเคชันธนาคารมือถือ บริการออนไลน์ และโซลูชันการชำระเงินที่ทันสมัย ข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอีกด้วย ธนาคารเอกชนในประเทศไทยยังสามารถดึงดูดลูกค้าระดับกลางและระดับสูงได้มากขึ้นด้วยบริการที่เป็นส่วนตัวและอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารเอกชนก็เผชิญกับความท้าทายในการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ความผันผวนของเศรษฐกิจ และการแข่งขันในตลาด แม้ธนาคารเหล่านี้จะมีความแข็งแกร่งทางการเงิน แต่การพึ่งพาผลลัพธ์จากตลาดทำให้พวกเขามีความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำหรือเกิดความไม่มั่นคงในตลาด ธนาคารของรัฐในประเทศไทย ธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และธนาคารออมสิน (GSB) มีแนวทางการดำเนินงานที่แตกต่างออกไป โดยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการรวมทางการเงินและการสนับสนุนโครงการของภาครัฐ ผลการดำเนินงานของธนาคารเหล่านี้จะถูกประเมินไม่เพียงแค่ในแง่ของผลกำไร แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในวัตถุประสงค์ทางสังคมและการพัฒนา หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของธนาคารของรัฐคือการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือกับวิกฤตทางการเงินได้ดีกว่าธนาคารเอกชน นอกจากนี้ ธนาคารของรัฐยังได้รับมอบหมายให้ให้สินเชื่อที่มีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะกับบุคคลที่มีรายได้น้อย ข้าราชการ และธุรกิจขนาดเล็ก อีกทั้งธนาคารของรัฐยังมีบทบาทในการดำเนินการตามโปรแกรมทางการเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารของรัฐมักมีปัญหาในด้านการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาด…

Read More

อิทธิพลของเทคโนโลยี 5G ต่อบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทย

การมาถึงของเทคโนโลยี 5G กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมทั่วโลก และประเทศไทยก็ไม่เป็นข้อยกเว้น สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศ เทคโนโลยี 5G มอบโอกาสมากมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เข้าถึงลูกค้าใหม่ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ถึงแม้ว่าการเปิดตัว 5G ในประเทศไทยจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ศักยภาพของมันในการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของสตาร์ทอัพนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นของ 5G เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบหลักสำหรับสตาร์ทอัพในประเทศไทย แตกต่างจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นก่อนหน้า 5G สัญญาว่าจะมีความเร็วที่เร็วกว่าและเชื่อถือได้มากกว่า การปรับปรุงนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพบริการบนคลาวด์อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สตาร์ทอัพสามารถนำเสนอโซลูชันที่แข็งแกร่งและใช้งานได้ในเวลาจริง ตัวอย่างเช่น บริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทยที่อยู่ในพื้นที่เทคโนโลยีสามารถใช้ประโยชน์จาก 5G เพื่อให้บริการประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น ลดความล่าช้า และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของแพลตฟอร์ม สำหรับอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) 5G เป็นตัวเปลี่ยนเกม การที่ 5G สามารถรองรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจำนวนมากขึ้น ทำให้สตาร์ทอัพในประเทศไทยสามารถพัฒนาโซลูชันที่เคยเป็นไปไม่ได้มาก่อน จากเมืองอัจฉริยะไปจนถึงการควบคุมอัตโนมัติในอุตสาหกรรม ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากด้วยความล่าช้าที่ต่ำลงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของธุรกิจเหล่านี้ สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยี IoT ในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ที่เร็วขึ้น ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้น อีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี 5G คือผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก สตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความจริงเสริม (AR)…

Read More

บริษัทค้าปลีกในประเทศไทย: การปรับตัวต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

อุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศไทยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นหลัก เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทำให้บริษัทค้าปลีกต้องปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการใหม่ๆ ผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีมากขึ้นและต้องการความสะดวกสบาย การปรับแต่งที่ตรงกับความต้องการส่วนบุคคล และความยั่งยืนในการซื้อสินค้า บทความนี้จะสำรวจวิธีที่บริษัทค้าปลีกในประเทศไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดในพฤติกรรมของผู้บริโภคคือการเพิ่มขึ้นของการช้อปปิ้งออนไลน์ การระบาดของโควิด-19 ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้บริโภคหลายคนยังคงเลือกซื้อสินค้าออนไลน์แม้ว่าจะมีการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ แล้ว บริษัทค้าปลีกในประเทศไทยกำลังลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิทัลของตนเพื่อให้ประสบการณ์ออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงแอปพลิเคชันมือถือ เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย และบริการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ ความสะดวกในการซื้อสินค้าออนไลน์ยังทำให้ร้านค้าทั่วไปจำนวนมากเริ่มนำเสนอโมเดลไฮบริดที่รวมร้านค้าทางกายภาพเข้ากับความสามารถในการซื้อออนไลน์ ตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่างเทสโก้โลตัสและบิ๊กซีได้พัฒนาการเข้าถึงออนไลน์ของตนให้ดีขึ้น โดยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและรับสินค้าได้ที่ร้านหรือเลือกบริการคลิกแอนด์คอลเลค นอกจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์แล้ว ผู้บริโภคยังมีความใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในทัศนคตินี้ได้ผลักดันให้บริษัทค้าปลีกในประเทศไทยต้องคิดทบทวนใหม่เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานและสินค้าที่นำเสนอ ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มเลือกแบรนด์ที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นผ่านการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งที่มาของสินค้าอย่างยั่งยืน หรือการผลิตที่มีจริยธรรม ร้านค้าปลีกเช่น 7-Eleven Thailand ได้ตอบสนองโดยการนำเสนอสินค้าที่มีตัวเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น เช่น ถุงพลาสติกย่อยสลายได้และผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยได้กระตุ้นให้บริษัทค้าปลีกต้องสื่อสารความพยายามด้านความยั่งยืนของตนอย่างโปร่งใส ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความภักดีในฐานลูกค้า การปรับแต่งประสบการณ์ในการซื้อสินค้าก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันคาดหวังประสบการณ์ที่ตรงตามความต้องการส่วนบุคคล และบริษัทค้าปลีกกำลังใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ปรับแต่งให้กับลูกค้า ตัวอย่างเช่น ผ่านการใช้ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) บริษัทค้าปลีกสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อและความชอบของลูกค้า เสนอแนะสินค้า โปรโมชั่น และโฆษณาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ค้าปลีกชื่อดังหลายแบรนด์ในประเทศไทย ได้ก้าวหน้ามากในการใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อเสนอประสบการณ์ที่ปรับแต่งให้ทั้งในออนไลน์และในร้านค้าทางกายภาพ บริษัทค้าปลีกยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสบการณ์ในร้านเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป…

Read More

การสร้างกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ตอบโจทย์ตลาดไทยสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)

SMEs ในประเทศไทยจะเติบโตได้ดีเมื่อกลยุทธ์การตลาดมีความเป็นท้องถิ่น เน้นมือถือเป็นหลัก และบริการที่ใส่ใจ เริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์หรือหน้าแลนดิ้งที่มีความเหมาะสมทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผู้ซื้อส่วนใหญ่ค้นหาผ่านภาษาไทย ดังนั้นจึงควรใช้คำหลักในภาษาไทยที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงการใช้เครื่องมือ Local SEO เช่น schema markup สำหรับข้อมูลสถานที่และเวลา รวมถึงการตรวจสอบและปรับแต่งโปรไฟล์ Google Business ของคุณให้มีภาพถ่าย หมวดหมู่ และคำถามที่มักพบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมองเห็นในแผนที่และนำมาซึ่งการเข้าร้าน แพลตฟอร์มโซเชียลในไทยทำหน้าที่คล้ายร้านค้า ควรสร้าง LINE Official Account (OA) โดยมีเมนูที่ชัดเจน การตอบกลับอัตโนมัติ และการแบ่งกลุ่มลูกค้า (ตามความสนใจหรือพฤติกรรมการซื้อ) ใช้คูปองและแบบสอบถามเล็ก ๆ เพื่อเรียนรู้ความชอบของลูกค้า ใน Facebook ให้เน้นการใช้ Groups และ Marketplace สำหรับการค้นพบที่มาจากชุมชน ส่วนใน TikTok และ Instagram สามารถนำเสนอเนื้อหาภาพสั้น ๆ เช่น การสาธิตวิธีใช้ หรือคลิปเบื้องหลัง สามารถโพสต์เป็นชุดเพื่อให้ผู้ชมกลับมาดูอีกครั้ง ตลาดออนไลน์ยังคงสำคัญสำหรับการสร้างความไว้วางใจและอัตราการแปลง ลูกค้าควรรักษาคุณภาพของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Lazada และ…

Read More

ความสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยที่มีส่วนร่วมในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความสนใจในการลงทุนในหุ้นของคนรุ่นใหม่นี้ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปจนถึงการเข้าถึงการศึกษาทางการเงินที่ง่ายขึ้น หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดแนวโน้มนี้คือการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์และแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งทำให้การเข้าถึงตลาดหุ้นสะดวกขึ้นสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น SETTRADE และแอปพลิเคชันระดับสากลอย่าง Robinhood และ eToro ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้โดยมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำและไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับนายหน้าธุรกิจแบบดั้งเดิม แพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้งานง่ายและมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้สะดวกในการตรวจสอบและจัดการพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา อีกปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความสนใจในตลาดหุ้นคือการเข้าถึงการศึกษาทางการเงินที่มากขึ้น คนรุ่นใหม่ในประเทศไทยเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินในอนาคต การศึกษาทางการเงินและแหล่งข้อมูลออนไลน์ทำให้พวกเขาเข้าใจพื้นฐานของการลงทุนในหุ้น การบริหารความเสี่ยง และการกระจายพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้น โรงเรียน มหาวิทยาลัย และแม้กระทั่งผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ต่างช่วยกันเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้น นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หลายคนจึงต้องพิจารณากลยุทธ์ทางการเงินของตัวเองใหม่และหลายคนก็หันมาสู่การซื้อขายหุ้นเพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง การล็อกดาวน์และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้ผู้คนใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีเวลามากขึ้นในการค้นคว้าและเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลและเจน Z ยังมีทักษะทางเทคโนโลยีสูงและยินดีที่จะทดลองวิธีการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เช่น สกุลเงินดิจิทัล แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะมีความผันผวนสูง แต่โดยรวมแล้วแนวโน้มนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการลงทุนและความเปิดกว้างในการสำรวจโอกาสทางการเงินที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม คนรุ่นใหม่ในประเทศไทยกำลังกระจายพอร์ตการลงทุนของตนไปยังทั้งหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ เศรษฐกิจของประเทศไทยยังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของความยืดหยุ่นแม้จะมีการแพร่ระบาดของโรค และนักลงทุนรุ่นใหม่หลายคนมองว่าตลาดหุ้นเป็นช่องทางในการเข้าถึงการเติบโตระยะยาวของประเทศ บริษัทไทยหลายแห่งได้ทำการขยายธุรกิจ และหุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้รับการมองว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ นักลงทุนรุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจในบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเทคโนโลยี พลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นภาคส่วนที่คาดว่าจะเติบโตในปีต่อๆ ไป นอกจากนี้อิทธิพลจากเพื่อนฝูงก็มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น คนรุ่นใหม่ในประเทศไทยมักจะแบ่งปันประสบการณ์การลงทุนของตัวเองในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งกระตุ้นให้เพื่อนและผู้ติดตามของพวกเขาเข้าร่วมในตลาดด้วย สิ่งนี้สร้างความรู้สึกของชุมชนที่ผู้คนแลกเปลี่ยนเคล็ดลับและกลยุทธ์ในการลงทุน ซึ่งส่งเสริมให้เกิดความกระตือรือร้นในการลงทุนในหุ้น รัฐบาลไทยยังได้ริเริ่มหลายโปรแกรมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในหมู่คนรุ่นใหม่…

Read More

การเติบโตของนวัตกรรมการชำระเงินดิจิทัลและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย

ประเทศไทยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภูมิทัศน์การชำระเงินของตน ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโตอย่างรวดเร็วของการชำระเงินดิจิทัลและการนำกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากการทำธุรกรรมด้วยเงินสดแบบดั้งเดิม ไปสู่วิธีการที่ทันสมัยและไร้เงินสด ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความสะดวกสบาย ความพยายามของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงทางความชอบของผู้บริโภคที่มุ่งไปสู่โซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการชำระเงินดิจิทัลในประเทศไทย คือ การมีสมาร์ทโฟนที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศ ด้วยจำนวนประชากรที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเกิน 90% การเปลี่ยนผ่านสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือจึงเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น กระเป๋าเงินมือถืออย่าง TrueMoney, AirPay และ Line Pay ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การชำระบิล โอนเงิน ซื้อสินค้า และแม้แต่การลงทุนได้ รัฐบาลไทยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัล โดยในปี 2017 ประเทศไทยได้แนะนำ แผนแม่บทการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการที่ครอบคลุมเพื่อสร้างสังคมไร้เงินสด แผนนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการเงิน ลดการทุจริต และปรับปรุงความสะดวกในการทำธุรกิจ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้แนะนำ PromptPay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ที่เชื่อมโยงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือของบุคคลกับบัญชีธนาคาร ซึ่งทำให้การทำธุรกรรมสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีความต้องการโซลูชันดิจิทัลที่สูง อย่างไรก็ตาม การใช้งานก็เริ่มขยายตัวไปยังพื้นที่ชนบทมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากความพยายามในการเพิ่มการเข้าถึงทางการเงินและเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัล การขยายตัวนี้ได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลและพ่อค้าคนกลางท้องถิ่น รวมถึงการเพิ่มการเข้าถึงสมาร์ทโฟนในพื้นที่ห่างไกล ระบบธุรกิจในประเทศไทยก็ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการชำระเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งนำการใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือไปใช้เป็นวิธีการให้ความสะดวกแก่ลูกค้า ด้วยการผสานแพลตฟอร์มดิจิทัลเหล่านี้เข้ากับระบบการชำระเงิน ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงจากการจัดการเงินสด ปรับปรุงการดำเนินงาน…

Read More

Nestopa.com เปิดตัว Nestopa AI AGENT เสริมสร้างความเป็นผู้นำด้าน AI Real Estate Search ในไทย

Nestopa.com แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัว Nestopa AI AGENT (เวอร์ชัน beta) ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาอสังหาริมทรัพย์ด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบจะแปลงคำสั่งเป็นตัวกรองอัจฉริยะ แสดงผลลัพธ์บนแผนที่และลิสต์รายการ คุณภัทราพร ธีรสถาพร Co-CEO Nestopa ชี้ว่านี่คือก้าวสำคัญ ทำให้ Nestopa เป็นแพลตฟอร์มแรกในไทยที่ใช้ AI AGENT เชื่อมโยงผู้ใช้ไปยังประกาศอสังหาริมทรัพย์โดยตรง กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 6 ตุลาคม 2568 – Nestopa แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศเปิดตัว Nestopa AI AGENT ในเวอร์ชัน beta ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาบ้าน คอนโด และอสังหาฯ ประเภทอื่น ๆ ด้วยการพิมพ์ถาม-ตอบด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ จากนั้นระบบจะนำทางไปยังผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย Nestopa AI AGENT ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาอสังหาฯ ที่ต้องการได้ผ่านการพิมพ์หรือการพูด เช่น “คอนโด 2 ห้องนอน ใกล้…

Read More
Back To Top